ส2. อาสนวิหารแม่พระบังเกิด ที่ตั้ง: ตำบลบางนกแขวก อำเภอบางคนที จังหวัดสมุทรสงคราม ละติจูด 13° 29' 42.83 เหนือ ลองจิจูด 99° 55' 25.52" ตะวันออก ประวัติโดยสังเขป ตั้งอยู่ริมแม่น้ำแม่กลอง ปากคลองบางนกแขวก เป็นโบสถ์คาทอลิคที่มีความสวยงามและสูงที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย สร้างขึ้นโดยบาทหลวงเปาโล ซัลมอน มิชชันนารีชาวฝรั่งเศส ใช้เวลาในการสร้างถึง 6 ปี ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 มีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2439 อาสนวิหารแม่พระบังเกิดถือเป็นอาสนวิหารที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย เป็นวัดประจำของพระสังฆราชประมุขของสังฆมณฑลราชบุรี (ประกอบด้วย จังหวัดราชบุรี กาญจนบุรี เพชรบุรี และสมุทรสงคราม) ในยุโรปเรียกวัดประเภทนี้ว่า Cathedral ภายในอาสนวิหารมีบัลลังก์พระสังฆราชประมุขของสังฆมณฑลราชบุรีซึ่งจะต้องมาประกอบพิธีมิสซาที่อาสนวิหารแม่พระบังเกิดในเทศกาลปาสกา (Easter Sunday) และเทศกาลคริสต์มาส (Christmas Day) อาสนวิหารแม่บังเกิดบางนกแขวกเป็นสถาปัตยกรรมแบบโกธิค (Gothic Art) คือ รูปแบบการก่อสร้างที่มีโครงสร้างสูง มียอดเป็นหอสูงแหลมอยู่ข้างบน (ใช้เป็นหอระฆัง) ทำให้รูปร่างสูงระหงขึ้นสู้ฟ้า เพดาน ซุ้มประตูหน้าต่าง และซุ้มภายในมีส่วนโค้ง (Arch) ที่แปลกกว่าส่วนโค้งของศิลปะอื่นใด คือ เป็นส่วนโค้งที่มีจุดตัดอยู่ตอนบนสุด รูปแบบภายนอกของอาสนวิหารได้สัดส่วนสวยงามมากที่สุดในประเทศไทย ภายในอาสนวิหารมีสิ่งหนึ่งที่เด่นหาดูยากและสวยงามที่สุดเช่นกัน นั่นคือกระจกสี (Stained Glass) ตามช่องซุ้มประตูและหน้าต่างเป็นภาพ รวมกันอยู่ในกรอบเมื่อพิจารณาภาพจากช่องที่มีแสงสว่างผ่าน ดูคล้ายกับภาพนั้นเขียนด้วยแก้วสี นอกจากนี้ยังมีประติมากรรมฝาผนังเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการถูกทรมาน ของพระเยซูเจ้าจนสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน มีทั้งหมด 19 ภาพ คริสต์ศาสนิกชนจะมีพิธีกรรมระลึกถึงมหาทรมานของพระเยซูเจ้าในระหว่างเทศกาลมหาพรต (Lenten Season) เรียกว่า การเดินมื้อสุดท้าย (The Last Supper) อีกทั้งยังมีประติมากรรมรูปพระเยซู และการตกแต่งภายในวิหารที่โอ่อ่างดงามอื่น ๆ อาทิ พระแท่นใหญ่ เชิงเทียนใหญ่ บัลลังก์พระสังฆราช และช่อชวาลา เป็นต้น