header
  หน้าหลัก | จังหวัดกาญจนบุรี | จังหวัดราชบุรี | จังหวัดสมุทรสงคราม | ภาพถ่ายโครงการ| แผนที่โครงการ |  

 

    วัตถุประสงค์โครงการ

    ขอบเขตงานวิจัย
    ภูมิอากาศ
    คณะผู้จัดทำโครงการ
    ดาวโหลดข้อมูล
 
ส8. อุทยานพระบรมราชานุสรณ์พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย

ที่ตั้ง: ตำบลสวนหลวง อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม
ละติจูด 13° 25' 10.20" เหนือ
ลองจิจูด 99° 57' 3.24" ตะวันออก

ประวัติโดยสังเขป

อุทยานพระบรมราชานุสรณ์พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ 2 (อุทยาน ร.2) เป็นโครงการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยของมูลนิธิพระบรมราชานุสรณ์ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยในพระบรมราชูปถัมภ์ เพื่อเป็นการสนองพระมหากรุณาธิคุณที่ได้พระราชทานศิลปวัฒนธรรมอันงดงามไว้ เป็นมรดกแก่ชาติ จนได้รับยกย่องให้เป็นบุคคลสำคัญของโลกจากองค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) บริเวณที่ก่อสร้างอุทยานพระบรมราชานุสรณ์นี้ พระราชสมุทรเมธี เจ้าอาวาสวัดอัมพวันเจติยารามเป็นผู้น้อมเกล้าฯ ถวาย มีพื้นที่ประมาณ 11 ไร่ พื้นที่บริเวณนี้มีความสำคัญ เพราะเป็นสถานที่พระราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย (รัชกาลที่ 2) โดยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีเสด็จพระราชดำเนินมาเปิดป้ายอุทยานเมื่อวันที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2522 และเปิดให้ประชาชนเข้าชมภายในอุทยานได้เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2530 อุทยานพระบรมราชานุสรณ์พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยแบ่งพื้นที่ออกเป็น 6 ส่วน ดังนี้

  1. ลานจอดรถหน้าอุทยาน ปัจจุบันมีที่ขายสินค้าพื้นเมืองและผลไม้ และอาศรมศึกษาซึ่งเป็นเรือนไทยโบราณ
  2. โรงละครกลางแจ้ง มีเนินลดหลั่นสำหรับชมการแสดง และปลูกพันธุ์ไม้ต่างๆ
  3. อาคารทรงไทย 5 หลัง จัดเป็นพิพิธภัณฑ์ 4 หลัง และอาคารซ้อมโขน ละคร และเก็บเครื่องดนตรีไทย 1 หลัง 
  4. สวนพันธุ์ไม้ในวรรณคดีนานาชนิด เพื่อประโยชน์แก่การศึกษาและอนุรักษ์พันธุ์ไม้ มีหุ่นจำลองเรื่องในวรรณคดี สังข์ทอง และไกรทอง 
  5. พื้นที่ติดแม่น้ำ มีศาลาเอนกประสงค์สำหรับนั่งพักผ่อน มีร้านจำหน่ายอาหาร เครื่องดื่มและสินค้าพื้นเมือง มีเรือประพาสอุทยาน ประชาชนขึ้นชมได้ 
  6. พื้นที่ประมาณ 11 ไร่ ซึ่งจะดำเนินการจัดทำสวนและทำสวนเกษตรตามพระราชดำริในองค์ประธาน

ภายในอุทยานพระบรมราชานุสรณ์ มีสิ่งที่น่าสนใจ ได้แก่ พิพิธภัณฑ์พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ลักษณะเป็นอาคารทรงไทย 4 หลัง จัดพิพิธภัณฑ์แบบชาติพันธุ์วิทยา แสดงศิลปวัตถุในสมัยต้นรัตนโกสินทร์ที่จะสะท้อนให้เห็นลักษณะศิลปวัฒนธรรม ความเป็นอยู่ และการดำรงชีวิตของชาวไทยในสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย โดยแบ่งเป็นส่วนดังนี้

  1. หอกลาง ภายในประดิษฐานพระบรมรูปรัชกาลที่ 2 และจัดแสดงศิลปโบราณวัตถุ สมัยต้นรัตนโกสินทร์ เช่น เครื่องเบญจรงค์ เครื่องถ้วย หัวโขน ซึ่งเป็นอุปกรณ์การแสดงนาฏกรรมตามบทวรรณคดีพระราชนิพนธ์ใน พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย หุ่นวรรณคดีเรื่องสังข์ทองและอิเหนา หนังใหญ่
  2. ห้องชาย จัดแสดง ให้เห็นลักษณะความเป็นอยู่ของชายไทยที่มีความกล้าหาญ พร้อมในการอาสาปกป้องผืนแผ่นดินตามลักษณะสังคมไทยสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น มีพระพุทธรูปสำหรับบูชา สมุดไทย เสื้อขุนนางไทยโบราณ ดาบ โล่ รวมทั้งพระแท่นบรรทมซึ่งเชื่อว่าเป็นของพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย
  3. ห้องหญิง ตกแต่งให้เห็นลักษณะความเป็นอยู่ของหญิงไทยโบราณ มีเตียงนอน แบบไทย โต๊ะเครื่องแป้ง คันฉ่อง ฉากปัก เป็นต้น
  4. ชานเรือน จัดแสดงตามแบบบ้านไทยโบราณ ตกแต่งด้วยกระถางไม้ดัด ไม้ประดับ
  5. ห้องครัวและห้องน้ำ จัดแสดงลักษณะครัวไทยมีเครื่องหุงต้ม ถ้วยชามและห้องน้ำของชนชั้นกลาง
  6. ตำแหน่งศิลาฤกษ์ แสดงให้เห็นแบบจำลองศิลาฤกษ์ที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงประกอบพิธี
  7. ลานโขน เป็นโรงละครกลางแจ้ง มีลักษณะเป็นเนินหญ้าหลดหลั่นสำหรับนั่งชมการแสดง
  8. อาศรมศึกษา อยู่ใกล้กับลานโขน มีลักษณะเป็นเรือนทรงไทยใช้เป็นที่อ่านหนังสือสำหรับประชาชน และเป็นสถานที่ปลูกพร้อมจำหน่ายพรรณไม้
  9. สวนพันธุ์ไม้ในวรรณคดี ประกอบไปด้วยพันธุ์ไม้ในวรรณคดีกว่า 140 ชนิด เพื่อประโยชน์แก่การศึกษาและอนุรักษ์พันธุ์ไม้ ทั้งไม้ดอกและไม้ใบ มีประติมากรรมปูนปั้นตัวละครเงาะป่าและไกรทอง ซึ่งอยู่ในพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย และนอกจากนี้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้ทรงโปรดเกล้าฯ ให้นำมะพร้าวพญาซอมาปลูกในสวนนี้ด้วย
  10. พื้นที่ติดแม่น้ำแม่กลอง มีศาลาเอนกประสงค์สำหรับนั่งพักผ่อน และชมบรรยากาศริมแม่น้ำแม่กลอง รวมถึงมีเรือประพาสอุทยาน อยู่ริมแม่น้าแม่กลอง เดินเข้าไปประมาณ 400 เมตร จากจุดจำหน่ายบัตรเข้าชม อยู่ใกล้กับศาลาเอนกประสงค์ เรือประพาสอุทยานนี้ สร้างด้วยไม้สักทั้งลำ เป็นเรือ 2 ชั้น ขนาดกว้าง 4.35 เมตร ยาว 19.60 เมตร กินน้ำลึก 0.07 เมตร น้ำหนัก 30 ตัน เครื่องยนต์ขนาด 120 แรงม้า ความเร็ว 6.5 น๊อต/ชั่วโมง จุผู้โดยสารได้ 80 คน ชั้นบนเป็นห้องโถง ชั้นล่างมีห้องน้ำ ห้องโถง ห้องสมุด ห้องครัว ห้องเครื่องยนต์ และมีบันไดลง 3 ทาง (ปัจจุบันเรือประพาสอุทยานอยู่บนบก)
Copyright 2013 by KMITL. All rights reserved.